ReadyPlanet.com
dot
ค้นหาสินค้า


  [Help]
dot
bulletอาหาร เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว
bulletผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม/คิ้ว
bulletผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ/ร่างกาย
bulletผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาสมุนไพร
bulletผลิตภัณฑ์ดูแลบ้าน/สัตว์เลี้ยง
bulletน้ำมันมะพร้าว/น้ำมันงา/น้ำมันนวด
bulletลูกประคบ/อบตัว/ดีท็อกซ์
bulletสินค้าเบ็ดเตล็ด
dot
สำหรับสมาชิก Green-X
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
ตะกร้าสินค้า
dot
จำนวน : 0 ชิ้น
ราคา : 0.00บาท
bullet ดูสินค้า
bullet ชำระเงิน
bulletแจ้งการโอนเงิน


DBD-Verified


เสลดพังพอน...สมุนไพรรักษาเริม-งูสวัด article

                       โรคเริม เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ Herpes Simplex Virus (HSV) ซึ่งมี 2 ชนิด ได้แก่ HSV-1 เป็นสาเหตุหลักของเริมตามผิวหนังส่วนบน เช่น ตา ลำตัว บริเวณช่องปากและริมฝีปาก มักติดต่อจากการสัมผัสโดยตรง และชนิด HSV-2 มักเกิดที่อวัยวะเพศ ซึ่งสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ลักษณะของโรคจะเป็นตุ่มน้ำใสเหมือนหยดน้ำเล็กๆ เจ็บๆ คันๆ มีขอบแดง มักขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม ต่อมาตุ่มน้ำใสจะแตกออกเป็นแผลถลอกตื้นๆ และหายไปในที่สุด หลังจากนั้น เชื้อจะไปแฝงตัวในเส้นประสาทอย่างสงบ และจะมีอาการกำเริบขึ้นมาใหม่เมื่อมีตัวกระตุ้น ได้แก่ ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ พักผ่อนไม่เพียงพอ อ่อนเพลีย ขาดสารอาหาร ความเครียด วิตกกังวล เป็นต้น โดยมักเป็นซ้ำบริเวณเดิม แต่อาการจะไม่ค่อยรุนแรงเหมือนครั้งแรก 

 

 

                      ส่วนโรคงูสวัดนั้น เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella Zoster Virus (VZV) ผู้ที่เป็นโรคงูสวัดมักเคยมีประวัติเป็นไข้สุกใสมาก่อน เมื่อหายจากไข้สุกใสเชื้อจะไปหลบอย่างสงบที่ปมประสาทใต้ผิวหนัง เมื่อร่างกายอ่อนแอ เชื้อที่แฝงตัวอยู่จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนและกระจายในปมประสาท ทำให้เส้นประสาทอักเสบ เกิดอาการปวด และเป็นตุ่มใสเรียงเป็นแนวยาวตามแนวเส้นประสาท คล้ายกับรูปร่างของงู จึงเรียกว่าโรคงูสวัด อาจปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีไข้หนาวสั่นร่วมด้วย หลังจากนั้นตุ่มน้ำจะแตก และตกสะเก็ดภายใน 7-10 วัน โรคนี้มักเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ยกเว้นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคมะเร็งที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน อาจกลับมาเป็นโรคงูสวัดซ้ำได้อีก

 

                      คนที่เคยเป็นเริมและงูสวัด คงจะรู้ดีว่าเป็นโรคผิวหนังที่สร้างความเจ็บปวดทรมานแค่ไหน ยิ่งถ้าเป็นเริมบริเวณที่ลับ (อวัยวะเพศ) แล้ว ในทางการแพทย์ถือว่าเป็นกามโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งติดต่อกันได้ง่าย ถ้าเป็นในสตรีมีครรภ์ อาจจะเป็นอันตรายแก่เด็กในท้องได้ หรือถ้าโรคลุกลามเป็นไฟลามทุ่ง หรือแบบขยุ้มตีนหมาก็จะยิ่งเจ็บปวดทรมานเป็นทวีคูณ กว่าจะหายเองก็อาจจะใช้เวลานานเป็นเดือน และบางทีอาจมีไข้แทรกซ้อนอีกด้วย จึงไม่มีใครที่ยอมปล่อยให้โรคเริมและงูสวัดเป็นไปและหายเองโดยไม่รักษา

 

                      ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงได้มีการรวบรวมองค์ความรู้ในการใช้สมุนไพรในการรักษาโรคทั้ง 2 ชนิดนี้ และได้มีการค้นพบและเริ่มใช้สมุนไพรเสลดพังพอน ในการรักษาโรคเริม งูสวัด และแผลในปาก ครั้งแรกในปี พ.ศ.2529 ในรูปแบบของทิงเจอร์และกรีเซอรีน ซึ่งนับเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่มีการนำสารสกัดจากสมุนไพรเสลดพังพอนตัวเมียมาใช้

 

                      เสลดพังพอนตัวเมีย หรือพญายอ, พญาปล้องทอง, พญาปล้องดำ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทยที่มีสรรพคุณโดดเด่นมากในทางผิวหนัง ซึ่งในยุคนั้น พบว่า มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเสลดพังพอนอยู่น้อยมาก ชาวบ้านในแถบภาคเหนือใช้กินเป็นอาหาร นิยมใส่แกงแค และมีชื่อตามท้องถิ่นว่า ผักมันไก่ หรือผักลิ้นเขียด และมีการใช้เสลดพังพอนในการรักษาอาการต่างๆ ดังนี้

 

                      ใช้รักษาพิษจากสัตว์ต่างๆ โดยใช้ใบเสลดพังพอน 25-30 ใบ ตำผสมเหล้าขาวหรือน้ำซาวข้าว 3 ช้อนโต๊ะ กรองเอาแต่น้ำดื่ม กากใช้พอก บางครั้งก็อาจมีการดองใบเสลดพังพอนไว้ใช้ โดยอาจดองเดี่ยวๆ หรือใช้พิมเสนร่วมด้วยก็ได้

 

                      การรักษาโรคเริม ให้ใช้ใบเสลดพังพอนสดๆ ประมาณ 15-20 ใบ ผสมเหล้า 28 ดีกรี 3 ช้อนโต๊ะ ตำคั้นน้ำทาและใช้กากพอกตรงตุ่มเริม ประมาณ 2-3 วัน ก็หายเป็นปกติ

 

                      การรักษาโรคงูสวัด ให้ใช้ใบเสลดพังพอนสดๆ 15-20 ใบ ตำผสมเหล้าโรง 28 ดีกรี แล้วใช้พอกตามตุ่มของงูสวัดให้ทั่ววันละ 2-3 ครั้ง ติดต่อกันทุกวัน ให้ใช้ใบสดอีกประมาณ 15-20 ใบ ตำกับน้ำซาวข้าวครึ่งถ้วยชาวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเพื่อขับพิษ หรือนำใบเสลดพังพอนสด 10-15 ใบ ล้างให้สะอาด ใส่ครกตำยา ตำให้ละเอียด ตักลงใส่ภาชนะสะอาด และเติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอล์พอท่วมยา ปิดฝาให้มิดชิด ตั้งทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ หมั่นคนยาทุกวัน กรองน้ำยาและเก็บใส่ภาชนะที่สะอาด นำน้ำยามาทาบริเวณที่ปวดบวม หรือใช้กากพอกร่วม หรือหากใช้เป็นยาภายนอกรักษาเริมและงูสวัด ให้ทาบริเวณที่เป็นวันละ 4-5 ครั้ง

 

                      ปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเสลดพังพอนอย่างกว้างขวาง และทางอภัยภูเบศรก็ได้มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรจากเสลดพังพอน หลายชนิด ได้แก่ คาลาไมน์ ใช้ทาแก้คัน, ยาหม่องแก้ฟกช้ำดำเขียว, กลีเซอรีนใช้รักษาแผลในปาก และครีมเสลดพังพอน ใช้รักษาโรคเริม และงูสวัด โดยพบว่าในการใช้เสลดพังพอนรักษาโรคเริมและงูสวัด ได้ผลดีกว่ายาแผนปัจจุบัน 

 

                      นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาประสิทธิภาพของครีมเสลดพังพอนในการรักษาเริมที่อวัยวะเพศ เปรียบเทียบกับครีมรักษาเริมแผนปัจจุบัน (Acyclovir cream) พบว่ามีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน โดยเสลดพังพอนมีข้อดีที่เหนือกว่ายาแผนปัจจุบัน คือ ไม่ทำให้เกิดการอักเสบระคายเคือง ขณะที่อะซัยโคลเวียร์ทำให้แสบ และครีมเสลดพังพอนยังออกฤทธิ์กับไวรัสโดยตรง ทำให้สามารถใช้ได้ทุกช่วงของโรค ขณะที่อะซัยโคลเวียร์ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ซึ่งจะออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อเริ่มติดเชื้อ

 

ข้อมูลจาก คมชัดลึกออนไลน์ 

http:// www.komchadluek.net/detail/20150703/209031.html




บทความดีๆ

ส้นเท้าแตก...จะเพศไหนก็เจอปัญหานี้ได้พอๆ กัน
กล้วยเล็บมือนาง คุณประโยชน์หลากหลาย แปรรูปหลากรส
ความเป็นมา ของ “ถั่วแดงหลวง”
เรื่องน่ารู้ : มันฝรั่ง article
ล้างผักปลอดภัย article
คุณประโยชน์ของฟักทอง article
7 คุณประโยชน์ เพื่อสุขภาพดีจากการดื่มกาแฟ article
“ทานาคา” ต้นไม้วิเศษช่วยปรับสีผิวให้ขาวขึ้นได้ ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ เคล็ดลับของสาวพม่า article
สมุนไพรสารพัดประโยชน์... “ว่านหางจระเข้”
ผิวสวยด้วยมะขามป้อม article
เซลลูไลท์ กำจัดได้เเค่ง่ายๆ...เพียงรู้ทัน article
เผยผิวหน้าสวย ด้วยแตงกวา..!! article
24 สรรพคุณ...ประโยชน์ของขมิ้นชัน แก้ได้ชะงัด ปัญหาสุขภาพ
กานพลู บำบัดอาการปวดฟัน สิงห์อมควันฟังทางนี้ article
ผักเบี้ยใหญ่ สรรพคุณไม่ธรรมดา ใครว่าเป็นแค่วัชพืช
ทำไมจึงควรซื้อสินค้าจาก เว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Verified article
คุณค่ามหาศาล! 7 อาหารให้พลังงาน ต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสมอง article
“หญ้าดอกขาว” สมุนไพรลดความอยากอาหาร ตัวช่วยของคนอยากเลิกบุหรี่ article
เพชรสังฆาตสมุนไพรไม้เก๋าๆ รักษาโรคริดสีดวงทวารก็ได้
กลิ่นตัวแรง !! แก้ง่ายๆ ด้วยตำรับยาจากธรรมชาติ
5 คุณประโยชน์ของบัวบกทั้งกินทั้งทา article
มากินงากันเถอะ เพราะ “กินงามีค่าดั่งกินหยก” article
3 ประโยชน์หลักของน้ำยาจุลินทรีย์ EM ที่คุณควรมีไว้ประจำบ้าน article
5 ส่วนประกอบในแป้งพัฟฟ์ทาหน้าเพื่อการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก article
อยากปิดผมขาวด้วยสมุนไพร แต่ทำไมใช้แล้ว สีไม่ติดเลยละคะ article
4 โรคร้ายที่ "มะรุม" สมุนไพรพื้นบ้านช่วยคุณได้ article
4 ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว...สิว..และสิว article
3 ประโยชน์ของ ” ขิง “ ที่คุณๆ อาจจะนึกไม่ถึง article
ชุดผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมและหนังศีรษะที่มีสุขภาพดีตลอดไป article