ซีรั่มวิตามิน บี3 (oil-free) ปราศจากน้ำมัน เนื้อซีรั่มบางเบา ดูดซึมเข้าผิวได้ดี ไม่ทิ้งรอยเหนอะหนะ ใช้ได้ทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อ่อนโยนต่อผิว สามารถใช้ได้ทุกวันอย่างปลอดภัย
สรรพคุณ:
- ช่วยรักษาผิวหน้าที่หมองคล้ำหรือแดงจากแสงแดด รอยสิว จุดด่างดำ ฝ้า ช่วยทำให้ผิวใสกระจ่างขึ้น
- ช่วยควบคุมและลดการผลิตเซลล์เม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติในชั้นผิวหนัง
- ยับยั้งการเคลื่อนตัวของเมลานินไปยังผิวชั้นบน
- ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง
- บำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว ลดริ้วรอย ต้านอนุมูลอิสระ ด้วยสารสกัดจากใบบัวบก แตงกวา และชาเขียว
- อุดมไปด้วยสารแทนนิน ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง
- ยับยั้งแบคทีเรีย P. Acnes. สาเหตุของการเกิดสิว ช่วยรักษาสิว ลดการอักเสบของสิวเรื้อรัง
- ป้องกันผิวจากอันตรายของแสงแดด
- ช่วยทำให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น
***เห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์: ผิวที่ขาดน้ำและหมองคล้ำ หรือผิวที่มีปัญหาเรื่องสิวหรือสิวเสี้ยน จะกระจ่างใสเรียบเนียน ชุ่มน้ำขึ้น ผิวกลับมาเนียนนุ่มและมีความยืดหยุ่นสูง ริ้วรอยจะตื้นขึ้นและจางลง ช่วยลดสิว แก้ปัญหาหลุมสิว ฝ้า รูขุมขนกว้าง ใบหน้าหมองคล้ำแดงจากแสงแดด ผิวขาดน้ำ มีริ้วรอย ช่วยลดเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ ทำให้เม็ดสีกระจายตัวสม่ำเสมอกันทั่วหน้า เมื่อใช้เป็นประจำระยะหนึ่ง ผิวหน้าจะใสออกนวลๆ ชั้นผิวจะแข็งแรงและหนาขึ้น ทนต่อแดดได้ดีขึ้น และภูมิคุ้มกันต่อสิ่งแวดล้อมจะดีขึ้นด้วย
ส่วนประกอบ: สารสกัดใบบัวบก แตงกวา และชาเขียว
วิธีใช้: หยด 2-3 หยด ทาทั่วใบหน้าและลำคอ ก่อนนอนและตอนเช้า
- ถ้าผิวหน้าไม่มีปัญหา ใช้ทาบำรุงผิวหน้า ทาทั้งหน้าเช้า-เย็น (กรณีผิวแห้ง ควรทาซีรั่มก่อนแล้วตามด้วยครีมบำรุงผิวตามปกติ ทั้งซีรั่มและครีมบำรุงผิวจะเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันในการบำรุงผิว moisturizing effects โดยวิตามิน B3 จะออกฤทธิ์ดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังอย่างรวดเร็ว และครีมบำรุงผิวจะดูดซึมเข้าผิวดีขึ้น พร้อมกับทำหน้าที่เคลือบผิวไว้ เพราะซีรั่มไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม)
- ถ้าเป็นสิว ฝ้าไม่มาก ทาทั้งหน้าเช้า-เย็น แล้วแต้มหนาๆ ตรงที่มีปัญหาได้บ่อย
- ถ้าเป็นสิว ฝ้ามาก อย่าพึ่งทาทั่วหน้า ให้แต้มเฉพาะจุดที่มีปัญหาก่อน
- ถ้าทำงานออกแดดบ่อยและผิวบอบบางจากการใช้สารกัดหน้ามานานๆ แนะนำให้ทาทั่วหน้า “บางๆ” (1-3 หยด) วันละ 1 ครั้งตอนกลางคืน 1 อาทิตย์ เพื่อปรับสภาพผิว (อย่าทาเยอะในช่วงแรกของการใช้) แล้วให้เริ่มใช้วันละ 2 ครั้ง ตามปกติ+แต้มตรงจุดที่มีปัญหาได้บ่อยๆ (จุดด่างดำ สิว หลุมสิว ฝ้า ริ้วรอย ร่องแก้ม รอยตีนกา)
- กรณีฝ้ามาก: คนที่เป็นฝ้ามาก หากทาทั่วใบหน้า หน้าจะใสขึ้น ทำให้ฝ้าเด่นขึ้นมา จึงแนะนำให้ทาเฉพาะตรงฝ้าก่อน ถ้าฝ้าสีน้ำตาลจะหายไว ประมาณ 1-2 เดือน แต่ฝ้าลึกสีเขียวออกดำ จะใช้เวลานานขึ้น ประมาณ 3-4 เดือน
- กรณีสิวมาก: กลไกการรักษาสิวของวิตามิน B3 เหมือน Retin A, Differin, Benzac, BHA, AHA โดยจะเคลียร์ comedones ใต้ผิว (Comedolytic) ทำให้บางคนสิวเห่อขึ้นมา ถ้าเป็นสิวมาก ให้แต้มด้วยซีรั่มบี3 ก่อน โดยแนะนำให้แต้มหนาๆ บ่อยๆ ตรงสิว โดยเฉพาะก่อนนอน ปกติสิวจะยุบภายใน 1-3 วัน ถ้าสิวยังไม่ค่อยยุบ ให้ช่วยเปิดหัวสิวให้ซีรั่ม โดยใช้เข็ม (เช็ดแอลกอฮอล์แล้ว) สะกิดเบาๆ เพื่อเปิดหัวสิว ถ้ามีหนองของเสียและหัวสิวอยู่ข้างใน ใช้สำลีกดซับเอาหนองออกให้หมด อย่าให้หนองลามไปที่อื่น ถ้าเอาหัวสิวออกได้ให้เอาออก ล้างหน้าแล้วเอาซีรั่มแต้ม สิวจะยุบเร็วขึ้น เมื่อปัญหาสิวเริ่มดีขึ้น ให้เริ่มทาทั่วหน้า “บางๆ” วันละ 1 ครั้งตอนกลางคืนก่อนนอน และแต้มที่สิวไปเรื่อยๆ เมื่อสิวไม่ขึ้นอีก (แสดงว่าหน้าไม่ค่อยมี comedones แล้ว) ให้เริ่มใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ขั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า
- ถ้าใช้รักษาสิว ประมาณภายใน 1 เดือน สิวจะหาย ถ้ามี comedones มาก (สิวเรื้อรัง) ต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 2-3 เดือน หน้าจะใสเกลี้ยงขึ้น
ปริมาณสุทธิ: 30 มล.
เครื่องสำอางควบคุมหมายเลขที่: 50-1-6200044313